ยูพีเอสแนะ ธุรกิจไทยพิชิตความท้าทายในช่วงแพร่ระบาดด้วยความยืดหยุ่น


 


ยูพีเอสแนะ ธุรกิจไทยพิชิตความท้าทายในช่วงแพร่ระบาดด้วยความยืดหยุ่น



ประเทศไทย 29 เมษายน 2564 – ในวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมาถือเป็นวันครบรอบ 1 ปีของการล็อกดาวน์ในประเทศไทย สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ได้ระบาดอย่างรวดเร็วขึ้น นับตั้งแต่มีการพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศเมื่อเดือนมกราคม แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงและความกังวลที่หลายประเทศต่างเผชิญร่วมกัน ในประเด็นสำคัญคือเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัยของครอบครัวและชุมชน

การล็อกดาวน์และการเว้นระยะห่างทางสังคมด้วยการอยู่บ้าน เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ทำให้คนจำนวนมากพึ่งพาบริการขนส่งและอีคอมเมิร์ซ เพื่อจับจ่ายสินค้าประเภทอาหาร ยารักษาโรค และของใช้ในชีวิตประจำวัน ในปีที่ผ่านมายูพีเอสมีการส่งพัสดุมากกว่า 6.3 พันล้านชิ้นทั่วโลก เพิ่มขึ้น 13.7% เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งเห็นชัดว่าเป็นผลจากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ชและธุรกิจขนส่งระหว่างบริษัทและร้านค้าถึงมือผู้บริโภค (B2C)

ประเทศไทยก็แสดงถึงแนวโน้มการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซที่คล้ายคลึงกัน โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัยการตลาดระดับโลกอย่าง NielsenIQ รายงานว่า แต่ละครัวเรือนมีการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 58% ในช่วงที่เกิดการระบาด ซึ่งส่งผลให้ความสำคัญของธุรกิจขนส่งและธุรกิจอีคอมเมิร์ชในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก เน้นย้ำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัว แม้การซื้อสินค้าออนไลน์และการเปิดรับโลกดิจิทัลจะมีมาก่อนที่โควิดจะระบาด แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตอกย้ำว่าการปรับตัวให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลเป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องทำ ไม่ใช่แค่ถ้าทำได้ก็ดี

การเปลี่ยนแปลงภายในเวลา 1 ปี

กว่าหนึ่งปีแล้วที่ประเทศไทยต้องฝ่าฟันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าจนเข้าสู่ระลอกที่สาม ถึงแม้จะเริ่มมีการจัดหาและฉีดวัคซีนแล้ว แต่ผู้คนก็ยังรู้สึกกลัวว่าจะมีการล็อกดาวน์อีกครั้ง ความกลัวเหล่านี้เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล เนื่องจากยังมีธุรกิจในไทยที่มีรายได้หลักจากห้างร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม และก่อนที่จะเกิดการระบาด ธุรกิจอีคอมเมิร์ชทำรายได้ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับยอดขายธุรกิจค้าปลีกทั้งหมดในประเทศ อย่างไรก็ตามพบว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ชในประเทศไทยมีสัญญาณการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากภาคธุรกิจต่างๆ ยังไม่มีการปรับตัว อาจส่งผลให้การต่อสู้กับความไม่แน่นอนของมาตรการควบคุมการระบาดที่อาจส่งผลต่อรายได้โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้านั้นยากขึ้นเรื่อยๆ

“ปีที่ผ่านมาลูกค้ายูพีเอสจำนวนมากต่างก็พบกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เราได้ช่วยธุรกิจสิ่งทอและแฟชั่นในไทยในการยกระดับการผลิตและกระบวนการซัพพลายเชน ซึ่งครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นผู้ผลิตสินค้าและจัดส่งแบบขายส่ง (B2B) ด้วยการตัดเย็บชุดเดรสเพื่อขายให้กับธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้า เมื่อเกิดการระบาด ธุรกิจเหล่านี้ได้ปรับตัวหันไปผลิตหน้ากากอนามัยและชุดป้องกันสำหรับบุคคลากรทางการแพทย์ หรือขายให้กับลูกค้ารายย่อยด้วยการส่งสินค้าถึงมือลูกค้าโดยตรง (B2C)” นายรัสเซล รี้ด กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าว

เบื้องหลังความสำเร็จ คือโซลูชันของยูพีเอสที่เข้ามาช่วยบริหารจัดการความไม่แน่นอนที่ลูกค้าต้องพบเจอในแต่ละวัน หนึ่งในหลายโซลูชันจากยูพีเอสที่ลูกค้าเล็งเห็นและตอบโจทย์ได้มากสุด คือ UPS My Choice® ซึ่งเข้ามาช่วยให้ธุรกิจไม่ว่าขนาดใหญ่หรือเล็ก รวมถึงผู้บริโภคสามารถบริหารการส่งและรับสินค้าได้อย่างง่ายดาย

ยูพีเอสส่งมอบบริการที่แน่นอนท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน

หนึ่งในปัญหาหลักที่ลูกค้ามักพบเจอกับการใช้บริการส่งสินค้าออนไลน์คือความไม่แน่นอน จากงานวิจัยล่าสุดของยูพีเอส Pulse of the Online Shopper Study ที่สำรวจพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่าผู้บริโภคต้องการจัดการการรับสินค้าได้ตามความต้องการของตนเอง เช่น การมีตัวเลือกสำหรับสถานที่จัดส่ง หรือ เปลี่ยนเวลาจัดส่ง

ความต้องการบริการในรูปแบบนี้ได้รับความนิยมขึ้นมากโดยเฉพาะในช่วงวิกฤติการระบาดที่ข้อจำกัดและข้อบังคับต่างๆ ส่งผลต่อขั้นตอนการส่งสินค้าและระยะเวลาการส่งสินค้า นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ต้องทำงานที่บ้าน ดังนั้นผู้ให้บริการจึงไม่สามารถส่งของไปยังสถานที่ทำงานหรือบริษัทได้ดั่งสถานการณ์ปกติ ซึ่ง UPS My Choice® สามารถมอบบริการที่ยืดหยุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการหลากหลายให้กับลูกค้าที่เป็นธุรกิจและลูกค้าที่เป็นผู้บริโภค

ลูกค้าสามารถเลือกวันส่งของและจุดรับของที่รองรับบริการได้ตามต้องการ เช่น ที่บ้านหรือที่จุดให้บริการ UPS Access Points นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถระบุตำแหน่งที่ต้องการ ให้คนขับยูพีเอสวางพัสดุหรือสิ่งของให้แก่ลูกค้าในตำแหน่งที่กำหนด เพื่อลดการสัมผัส และยังมีทางเลือกที่ให้เพื่อนบ้านสามารถรับพัสดุสินค้าแทนในกรณีที่ลูกค้าไม่อยู่บ้าน หรือเมื่อสถานการณ์กลับมาปกติและต้องกลับไปทำงาน ลูกค้าก็สามารถเลือกเปลี่ยนที่อยู่การจัดส่งใหม่ได้เช่นกัน นอกจากนี้ UPS My Choice® ยังสามารถแจ้งเตือนลูกค้าได้โดยอัตโนมัติและลูกค้าสามารถติดตามสถานะการขนส่งของตลอดเส้นทางได้ทันทีหลังจากผู้ส่งได้มีการส่งมอบพัสดุ

UPS My Choice® ได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากวิกฤติการระบาด เพราะลูกค้าเล็งเห็นถึงประโยชน์ของโซลูชันนี้ ธุรกิจค้าปลีกในอนาคตจะถูกขับเคลื่อนด้วยอีคอมเมิร์ชมากยิ่งขึ้น ซึ่ง UPS My Choice® จะเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยเติมเต็มธุรกิจไทยและผู้ขายจากต่างประเทศที่ต้องการส่งมอบประสบการณ์อีคอมเมิร์ซแบบราบรื่นให้กับลูกค้า ด้วยการมอบความมั่นใจให้กับลูกค้า ในสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน ด้วยระบบติดตามพัสดุที่เชื่อถือได้ และการแจ้งเตือนได้แบบเรียลไทม์

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“Sanan Angubolkul” becomes the 25th Chairman of the Thai Chamber of Commerce To continue the TCC mission, highlighting “Connect the Dots” policy to revitalize Thai economy within 99 days

ศุกร์ 22 ม.ค.นี้ ธอส. ชวนมีบ้านง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส ขนบ้านมือสองทั่วประเทศ 990 รายการ มาเปิดประมูลออนไลน์ “บ้านถูกใจ หาได้ที่ ธอส ”

มูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ เชิญร่วมบริจาคเงินสมทบกองทุนสู้ภัยโควิด-19